วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม

Add Your Heading Text Here

vuttigon1994

วพบ.นครพนม เข้าร่วมการประชุมวิชาการประจำปีด้านจริยธรรมวิชาชีพการพยาบาล ครั้งที่ 11 เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี สภาการพยาบาลเรื่อง “ภาวะผู้นำทางจริยธรรมในการบริหารการการพยาบาล การปฏิบัติการพยาบาล และการศึกษาพยาบาล (Ethical Leadership in Nursing Administration, Nursing Service, and Nursing Education)” มุ่งต่อยอดพัฒนาระบบและกลไกจริยธรรมในสถาบันการศึกษา

ระหว่างวันที่ 19 – 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ดร.สุปราณี สิทธิกานต์ คณบดีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมด้วย อาจารย์พยอม สินธุศิริ รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ และเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่สังคม และอาจารย์จรินทร โคตพรม รองคณบดีฝ่ายนโยบาย แผน และงบประมาณ เข้าร่วมการประชุมวิชาการประจำปีด้านจริยธรรมวิชาชีพการพยาบาล ครั้งที่ 11 เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี สภาการพยาบาลเรื่อง “ภาวะผู้นำทางจริยธรรมในการบริหารการการพยาบาล การปฏิบัติการพยาบาล และการศึกษาพยาบาล (Ethical Leadership in Nursing Administration, Nursing Service, and Nursing Education)”ซึ่งจัดโดยสภาการพยาบาล โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิด้านจริยธรรมทางการพยาบาลร่วมบรรยายและถ่ายทอดองค์ความรู้ตลอดการประชุม ณ ห้องประชุมไดมอนด์ฮอลล์ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท จังหวัดปทุมธานี

การเข้าร่วมครั้งนี้ผู้บริหารจากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนมได้ร่วมประชุมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหลายประเด็นสำคัญ อาทิ การพัฒนาภาวะผู้นำทางจริยธรรม การจัดการสถานการณ์ขัดแย้งทางจริยธรรม การออกแบบกิจกรรมพัฒนาทักษะการตัดสินใจเชิงจริยธรรม ตลอดจนแนวทางการสร้างวัฒนธรรมจริยธรรมการเป็นผู้นำในองค์กรพยาบาลและสถาบันการศึกษา จากการเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ คณะผู้บริหารวิทยาลัยฯ เห็นร่วมกันว่าจะนำประเด็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับ โดยเฉพาะ “การพัฒนาระบบและกลไกจริยธรรมทางการพยาบาลในสถาบันการศึกษา” มาวางแนวทางพัฒนาและขับเคลื่อนต่อยอดภายในสถาบัน เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านจริยธรรมและส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมแก่นักศึกษาและบุคลากรอย่างเป็นรูปธรรม

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม ยังคงมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพการผลิตบัณฑิตพยาบาลและพัฒนาบุคลากรด้านสุขภาพ ที่มีความแม่นยำและสร้างคุณค่าต่อสังคม ทั้งด้านความรู้ ทักษะวิชาชีพ และคุณธรรมจริยธรรม เพื่อพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพที่มีความรับผิดชอบต่อผู้ป่วยและสังคมอย่างยั่งยืน

วพบ.นครพนม ร่วมกิจกรรมวันรณรงค์ป้องกันแผลกดทับโลก (Worldwide Pressure Injury Prevention Day) ณ โรงพยาบาลมุกดาหาร

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. ดร.สุปราณี สิทธิกานต์ คณบดีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม มอบหมายให้อาจารย์ณฐมน โจมแพง ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร พร้อมด้วยอาจารย์ศิริภรณ์ เหมะธุลิน หัวหน้ากลุ่มวิชาการพยาบาลมารดาทารกและการผดุงครรภ์ นำนักศึกษาที่ปฏิบัติงาน ณ โรงพยาบาลมุกดาหาร เข้าร่วมกิจกรรม วันรณรงค์ป้องกันแผลกดทับโลก (Worldwide Pressure Injury Prevention Day) ประจำปี 2568 โดยแพทย์หญิงนภาพร เกียรติดำรง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมุกดาหาร มอบหมายให้นายแพทย์วิลาศ นรินทร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ เป็นประธานเปิดงาน โดยมีนายแพทย์อนุชิต กุลวงษ์ หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรม กล่าวรายงานณ บริเวณลานหน้าอาคาร 58 พรรษา เฉลิมราชกุมารี โรงพยาบาลมุกดาหาร

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักแก่บุคลากรสาธารณสุขทุกสาขาวิชาชีพเกี่ยวกับความสำคัญของการป้องกันแผลกดทับ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตผู้ป่วย ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และค่าใช้จ่ายในการรักษา ทั้งยังเป็นภาวะที่สามารถป้องกันได้ หากมีการประเมินความเสี่ยง การดูแลที่มีประสิทธิภาพ และการทำงานร่วมกันของทีมสหสาขาวิชาชีพ

นอกจากนี้ การรณรงค์และติดตามข้อมูลตัวชี้วัดแผลกดทับในโรงพยาบาลยังมีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์แนวโน้มปัญหา นำไปสู่การวางแผนพัฒนาคุณภาพบริการอย่างเป็นระบบ เพื่อยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยและลดภาวะแทรกซ้อนอย่างยั่งยืน

วพบ.นครพนม จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และภาษาอังกฤษ เสริมศักยภาพนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล รุ่นที่ 16

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ดร.สุปราณี สิทธิกานต์ คณบดีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มอบหมายให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดารุนนีย์ สวัสดิโชตติ์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรม และต้อนรับนักศึกษาเข้าสู่การเรียนรู้เชิงปฏิบัติด้านทักษะอาชีพที่จำเป็นสำหรับงานผู้ช่วยพยาบาล

กิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก อาจารย์ ดร.กันตภพ บัวทอง ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนครพนม และ นายวุฒิธิกรณ์ ประพัศรางค์ นักวิชาการโสตทัศนศึกษา ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายและจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการสื่อสาร และการทำงานเป็นทีม ผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม โดยเน้นทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การสื่อสารในภาวะวิกฤต การสื่อสารในงานดูแลผู้ป่วย พร้อมทั้งฝึกปฏิบัติผ่านกิจกรรมกลุ่มสถานการณ์จำลอง เพื่อให้นักศึกษาตระหนักถึงบทบาทของตนเองและสามารถทำงานร่วมกับทีมสุขภาพได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก Mr. David England เป็นวิทยากรเสริมทักษะด้านภาษาอังกฤษ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการสื่อสารในบริบทวิชาชีพผู้ช่วยพยาบาล

การจัดกิจกรรมครั้งนี้มุ่งเสริมสร้างพื้นฐานทักษะสำคัญทั้งด้านการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และทักษะภาษาอังกฤษ ตลอดจนช่วยให้นักศึกษามีความพร้อมและความมั่นใจในการก้าวสู่การฝึกปฏิบัติจริงในสถานบริการสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ

วพบ.นครพนม เข้าร่วมการประกวดนวัตกรรมทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ครั้งที่ 6 ประจำปี 2568 “Innovation in Nursing and Midwifery” คณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

ระหว่างวันที่ 16–17 พฤศจิกายน 2568
โดย ดร.สุปราณี สิทธิกานต์ คณบดีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม มอบหมายให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประไพรัตน์ แก้วศิริ รองคณบดีฝ่ายพัฒนาการศึกษา พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์อรุณรัตน์ อุทัยแสง อาจารย์ศิริภรณ์ เหมะธุลิน และอาจารย์เปรียบแก้ว ฝาระมี นำนักศึกษาเข้าร่วมการประกวดนำเสนอผลงานประเภท Poster Presentation ในการประกวดนวัตกรรมทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ครั้งที่ 6 ณ คณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
การเข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาสู่ความเป็นเลิศด้านวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ประจำปีงบประมาณ 2569 จากฝ่ายพัฒนานักศึกษาและวิเทศสัมพันธ์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม โดยมีผลงานนวัตกรรมของนักศึกษาจาก วพบ.นครพนม ผ่านเข้ารอบการนำเสนอแบบ Poster Presentation จำนวน 2 เรื่อง จากจำนวนผลงานที่ส่งเข้าคัดเลือกทั้งหมดกว่า 80 ผลงาน ได้แก่
1) ผลของตั่งตั้งรองขาต่อความพึงพอใจของพยาบาลวิชาชีพในการทำแผลเบาหวาน
(The Effect of Leg Support Stand on Registered Nurses’ Satisfaction in Diabetic Wound Care)
โดย นางสาวนฤมล เพชรนาค และ นางสาวปรียาภรณ์ พลเยี่ยม
อาจารย์ที่ปรึกษา: ผู้ช่วยศาสตราจารย์อรุณรัตน์ อุทัยแสง และผู้ช่วยศาสตราจารย์กุลพิธาน์ จุลเสวก
2) ผลของการใช้โมเดลรก 3 มิติต่อความรู้และความพึงพอใจของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม
(The Effect of Using a 3D Placenta Model on the Knowledge and Satisfaction of Nursing Students at Boromrajonani College of Nursing Nakhon Phanom, Nakhon Phanom University)
โดย นางสาวสุมินทรา คณาสาร และ นางสาวณภัทร แก้ววิเศษ
อาจารย์ที่ปรึกษา: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประไพรัตน์ แก้วศิริ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ดารุนนีย์ สวัสดิโชตติ์
การเข้าร่วมครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม ในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษา ส่งเสริมนวัตกรรมทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ตลอดจนการยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพในระดับชาติและนานาชาติ

วพบ.นครพนม ประชุมวางแนวทางพัฒนาหลักสูตรบัณฑิตศึกษา มุ่งยกระดับการศึกษารองรับนักศึกษาต่างชาติ

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ดร.สุปราณี สิทธิกานต์ คณบดีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาและยกระดับหลักสูตรให้มีมาตรฐานสากล รองรับการจัดการศึกษาสำหรับนักศึกษาต่างชาติ
ในการประชุมครั้งนี้ มีคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางความร่วมมือทางวิชาการ อาทิ คณาจารย์จากกลุ่มวิชาการพยาบาลอนามัยชุมชน ดร.ศิวกรณ์ ตั้งสกุล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม รวมถึงอาจารย์ ดร.ปุญชญา ศิวานิพัทน์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากตัวแทนบริษัท หจก.อาลีบบา อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเคชั่น จำกัด เข้าร่วมประชุม ได้แก่ นางสาวปภัสสร ไพบูลย์ฐิติพรชัย ผู้ประสานงานฝ่ายไทย และนายชิงเชา ซุน ผู้ประสานงานฝ่ายจีน เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและวางแนวทางความร่วมมือด้านการจัดการศึกษาสำหรับนักศึกษาต่างชาติ
การประชุมดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและเปิดโอกาสให้พยาบาลจากประเทศจีน โดยเฉพาะในเขตมณฑลซานตง มณฑลยูนนาน และเมืองคุนหมิง ซึ่งมีพื้นฐานด้านการพยาบาลและประสบการณ์ทางคลินิก ได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับมหาบัณฑิต ที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม อันจะเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการด้านการพยาบาลระหว่างไทย–จีน และยกระดับคุณภาพการศึกษาของวิทยาลัยให้ก้าวสู่ความเป็นนานาชาติอย่างยั่งยืน

วพบ.นครพนม ร่วมแสดงความยินดีกับนายแพทย์สมชาย ชมภูคำ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนมคนใหม่

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ดร.สุปราณี สิทธิกานต์ คณบดีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เข้าแสดงความยินดีกับนายแพทย์สมชาย ชมภูคำ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ในโอกาสที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม อย่างเป็นทางการ ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม

วพบ.นครพนม ร่วมแสดงความยินดีกับนายแพทย์อภิวัฒน์ บัณฑิตย์ชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนมคนใหม่

นที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ดร.สุปราณี สิทธิกานต์ คณบดีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เข้าแสดงความยินดีกับนายแพทย์อภิวัฒน์ บัณฑิตย์ชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนมคนใหม่ ในโอกาสที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนมอย่างเป็นทางการ
พร้อมร่วมพูดคุยและประสานการจัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติและแหล่งฝึกปฏิบัติร่วมกันระหว่างวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนมและแหล่งฝึกปฏิบัติโรงพยาบาลนครพนมของนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม ณ โรงพยาบาลนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

Beacon of hope in diabetes fight

Small community in Northeast, with medical help from ThaiHealth and Nakhon Phanom University, leads way in scheme that shows results in just six weeks, writes Chairith Yonpiam

Nestled in the heart of the Northeast, the small district of Phon Sawan may seem an unlikely battleground in the country’s fight against chronic illness.

But over the past two months, this quiet community has become a beacon of hope in a struggle against diabetes, a disease that is quietly costing the nation its health and a big share of its budget.

At the centre of the transformation is a pilot programme known as the “Urban Primary Healthcare Project: Proactive Diabetes Prevention and Control,” launched by the Thai Health Promotion Foundation (ThaiHealth) and a research team from Nakhon Phanom University.

Its aim is ambitious as it is urgent: to prevent diabetes at the community level, reduce dependence on medication, and ease the growing financial burden on the universal healthcare system.

What began with just 62 volunteers in Ban Sao Lao, a four-village cluster in Phon Sawan district, is now being closely watched by public health experts across the country.


WHERE CHANGE BEGINS

“I didn’t even realise sticky rice was a form of sugar,” said Amnuay Suwammajo, one of the participants. “Now, I eat more vegetables and lean meat, and I’ve lost several kilogrammes already.”

Mr Amnuay’s story is far from unique. Among the 62 people involved in the project—50 of whom are women—20 had already been diagnosed with prediabetes and many were classified as being at high risk.

Residents reported visible results: body mass index, and perhaps most significantly, waist circumference dropped and exercise increased.

Wimonrat Saha, a 47-year-old farmer, had not only felt healthier but also noticed how the balance of foods changed for good, she laughed. “But more importantly, I understand that it’s not just about weight—those who are diabetic suffer serious complications.”

This rings true for many as diabetes and related complications account for a high share of deaths and healthcare costs in Thailand: these risks may fall by 10–20% after six weeks for those involved in the programme, according to project researchers.

Thus begins a highly personalised lifestyle change programme, but one that doesn’t look intimidating—because in fact, it isn’t.


A TEAM BEHIND EVERY STEP

The engine behind this success is a multidisciplinary team drawn from Phon Sawan Hospital. Instead of focusing solely on treatment, they’re redefining healthcare as a partnership between professionals and villagers.

Each week, participants join community-based activities, guided by dietitians, physiotherapists, sports scientists.

The goal: helping people not just lose weight, but gain strength, confidence, and understanding.

“The goal isn’t just weight loss,” said Asst Prof Benjamaya Ployron, Assistant Dean for Elearn Internal Quality Assurance at Nakhon Phanom University, one of the project’s lead researchers. “We’re looking at building muscle, improving mental health and changing how people live. That’s where real prevention begins.”

To keep participants motivated, the group sits in a Line group where they share photos of what they eat, how they exercise, how they feel. There’s even friendly competition—like a weekly leaderboard, whose muscle gains steal the show.

Still, there are challenges. “Some people struggle to afford protein-rich food like meat,” said Kanuyan Kamonruen, a nurse at the hospital. “And others don’t like being told what to eat. So we focus on education and encouragement, not rules.”

That approach is essential since most lifestyles start to see this shift when weighing scales and in their medical statistics.


THE COST OF DOING NOTHING

What’s happening in Ban Sao Lao isn’t just a feel-good story—it is a financial strategy.

Asst Prof Dr Soranit Siltharm, board member of ThaiHealth, said diabetes and deadly chronic conditions are the most sizeable contributors to Thailand’s healthcare crisis.

In 2015, factors linked to diabetes accounted for nearly two million years of productive human lifespans lost.

Under the universal healthcare scheme, millions depend on essential medication that often continues for life. Diabetes imposes one of the largest financial burdens on the national health system—with patients requiring dialysis, eye treatment, heart treatment, and more.

According to ThaiHealth, diabetes drains an estimated 200 billion baht every year.

“Diabetes is the real silent killer,” Dr Soranit said. “It creeps up slowly, and by the time symptoms show, it’s often too late.”

Since 1973 the country’s healthcare system has improved considerably, but chronic diseases have never stopped rising. The results of the Phon Sawan model, delivered by Nakhon Phanom University and the ThaiHealth Foundation, indicated the programme can be scaled nationally, the savings could be massive, not just in baht, but in lives saved and suffering avoided.


A PATH FORWARD

At Phon Sawan Hospital, head nurse Patcharaporn Kawansu explains how the proactive diabetes project has helped build a positive attitude within the community.

Instigated by ThaiHealth’s approach, the hospital invites villagers for shared care with medical experts, treating diabetes as an everyday habit—not just medication.

“We’ve always treated diabetes,” Ms Patcharaporn said. “But now we’re preventing it. The combination of group activities, seen, heard and supported has changed everything.”

Rather than leaving patients with medication and a few standard instructions, the project ensures villagers understand:

— “Why they need to move more,”
— “How their meals matter,” and
— “How muscles reduce insulin resistance.”

The programme encourages people to take control of their health, something that often gets overlooked due to traditional practices.

It offers a new direction for primary care nationwide. If scaled up, experts believe rural villages may already hold the answer.

การสนับสนุนที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาสำหรับบุคลากร (Affordable Housing for Employees): วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม ให้ความสำคัญสูงสุดกับการพัฒนาบุคลากรและยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานทุกคน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการศึกษาและการบริการสุขภาพให้บรรลุผลสำเร็จ ด้วยความตระหนักในหลักการของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป้าหมายที่ 11: เมืองและถิ่นฐานมนุษย์ที่ยั่งยืน (SDG 11) และการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี (SDG 8: งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ) วิทยาลัยฯ จึงได้ดำเนินการส่งเสริม “ที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาสำหรับบุคลากร” (Affordable Housing for Employees) อย่างเป็นรูปธรรม

มาตรการสวัสดิการที่อยู่อาศัย: หอพักบุคลากรโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในการสร้างความมั่นคงในชีวิต (Target 11.1: การเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่เพียงพอ ปลอดภัย และราคาที่สามารถเข้าถึงได้) วิทยาลัยฯ ได้จัดสรรสวัสดิการพิเศษสำหรับบุคลากร โดยการดำเนินการ ดังนี้

  1. จัดเตรียมหอพักบุคลากร: วิทยาลัยฯ ได้จัดอาคารหอพักสำหรับบุคลากร เพื่อเป็นที่พักอาศัยที่ปลอดภัยและมีมาตรฐาน
  2. สวัสดิการ ‘ที่พักฟรี’: หอพักบุคลากรดังกล่าว ไม่มีการคิดค่าใช้จ่าย สำหรับการเข้าพักอาศัย โดยถือเป็นสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่วิทยาลัยฯ มอบให้แก่พนักงานโดยตรง

Boromarajonani College of Nursing, Nakhon Phanom University, places paramount importance on staff development and enhancing the quality of life for all employees, who are the key force driving the College’s mission in education and health services. Recognizing the principles of the Sustainable Development Goals (SDGs), particularly Goal 11: Sustainable Cities and Communities (SDG 11), and the creation of a positive working environment (SDG 8: Decent Work and Economic Growth), the College has implemented a concrete initiative to promote “Affordable Housing for Employees.”

Housing Welfare Measure: Cost-Free Staff Dormitory

To align with the SDG objective of ensuring life stability (Target 11.1: ensuring access for all to adequate, safe and affordable housing and basic services), the College has provided a special welfare benefit for its personnel through the following measures:

  1. Provision of Staff Dormitories: The College has allocated dormitory buildings specifically to serve as safe and standardized residences for its staff.

  2. ‘Free Accommodation’ Welfare: The use of these staff dormitories is offered without any charge for accommodation, establishing it as a direct welfare benefit and privilege provided by the College to its employees.

ประกาศนี้เป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมหอพักสำหรับนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม. ซึ่งสอดคล้องกับการสนับสนุนที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาสำหรับนักศึกษา (Affordable Housing)

โดยมีรายละเอียดดังนี้:

กลุ่มเป้าหมาย: นักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 1-4 ที่เข้าพักอาศัยในหอพักของวิทยาลัยฯ. นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ทุกคนต้องเข้าพักในหอพัก.
ค่าธรรมเนียมหอพัก: จัดเก็บแบบเหมาจ่ายตลอดปีการศึกษา ในอัตรา 12,000 บาท ต่อคน.
การชำระ: แบ่งชำระเป็น 2 ภาคการศึกษา ภาคการศึกษาละ 6,000 บาท (ในภาคการศึกษาที่ 1 และ 2).
หมายเหตุ: ค่าธรรมเนียมนี้ขอรับคืนไม่ได้ไม่ว่ากรณีใด ๆ.
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ครั้งแรกเข้า): ชำระค่าใช้อุปกรณ์หอพักรวมจ่ายครั้งเดียวแรกเข้า 2,000 บาท.
การส่งเสริม: การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมรวมทั้งปีการศึกษาที่ 12,000 บาท (ตกประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน หากนับ 12 เดือน) ถือเป็นอัตราที่สมเหตุสมผลและสามารถเข้าถึงได้สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี. นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ทุกคนต้องเข้าพัก เพื่อเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียมในการเข้าถึงที่พักอาศัยมาตรฐานของมหาวิทยาลัยในช่วงปีแรกของการศึกษา.

มาตรการค่าปรับ/ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค่าปรับกรณีชำระล่าช้า: ชำระค่าปรับวันละ 50 บาท แต่ไม่เกิน 500 บาท.
ค่าปรับกรณีทำกุญแจชำรุด/สูญหาย: ครั้งละ 100 บาท.
ค่าทำความสะอาดห้องพัก (ก่อนส่งคืน): คนละ 200 บาท หากไม่ทำความสะอาดให้เรียบร้อย.

The official notice is issued by Nakhon Phanom University regarding the Dormitory Fees for Bachelor of Nursing Science Program Students (B.N.S.) for the year B.E. 2568 (2025). This notice is effective from Semester 1 of Academic Year 2568 onwards.

Summary for Affordable Housing (Affordable Housing for Students) in line with SDGs
This fee structure, set for the students of the Boromarajonani College of Nursing, Nakhon Phanom (under Nakhon Phanom University), supports the principle of Affordable Housing for Students, which is relevant to achieving Sustainable Development Goals (SDGs), particularly in ensuring access to safe and affordable basic services.
Target Group: B.N.S. students in Years 1-4 residing in the College dormitories. All Year 1 students are required to stay in the dormitory.

Dormitory Fee: A lump-sum fee is collected for the entire academic year, amounting to 12,000 Baht per person.
Payment Schedule: The fee is split into two installments of 6,000 Baht each, payable in Semester 1 and Semester 2.
Affordability and SDG Alignment: The annual fee of 12,000 Baht (approximately 1,000 Baht per month) is considered reasonable and accessible for undergraduate students, providing a secure and regulated living environment. Furthermore, the mandatory stay for all Year 1 students promotes equity in access to standard university accommodation during their initial year.

Initial Setup Fee: A one-time initial payment for shared dormitory equipment usage is 2,000 Baht.
Additional Charges/Fines
Late Payment Fine: 50 Baht per day, up to a maximum of 500 Baht.
Key Damage/Loss Fine: 100 Baht per instance.
Cleaning Fee (Upon Check-out): 200 Baht per person if the room is not properly cleaned before return.

 

 

PDF Title

Wordpress Social Share Plugin powered by Ultimatelysocial
YouTube
Instagram
canlı casino
bonus veren siteler
beylikdüzü escort
Fixbet Matadorbet Fixbet giriş Fixbet adres Deneme bonusu veren siteler
bostanci escort kadikoy escort kartal escort kurtkoy escort
Trbet Canlı Bahis Canlı Bahis Canlı Bahis Canlı Bahis Canlı Bahis

kamagra 100 mg

afilta 20 mg

combo 100 mg

degra 100 mg

flynta 20 mg

hardcis 20 mg

jeligra 100 mg fiyat

lex 20 mg fiyat

lifta 20 mg fiyat

orcafil 20 mg

priligy 30 mg

sildegra

sinegra 100 mg

vigrande 100 mg

cialis fiyat

cialis nedir

deneme bonusu veren siteler deneme bonusu veren siteler deneme bonusu veren siteler
Porn sites
hdfilmcehennemi film izle hd film